เครื่องบดทัลคัม ความละเอียด 400 ตา ผลผลิต 7 ตันต่อชั่วโมง ดีไหม?
2025-06-28 09:30:50
พวกเราเป็นบริษัท Liming Heavy Industry เราผลิตเครื่องบดหลายประเภท เช่น เครื่องบดเรย์มอนด์ เครื่องบดทราเปซอยด์ เครื่องบดแนวตั้ง เครื่องบดละเอียดพิเศษ เครื่องบดแบบลูกบอล เป็นต้น ซึ่งสามารถผลิตผงได้หลายขนาด เช่น 5 ไมครอน, 10 ไมครอน, 40 ไมครอน, 100 ไมครอน, 200 ไมครอน เป็นต้น
อุปกรณ์เครื่องบดของเราสามารถใช้ในการแปรรูปแร่ต่างๆ ได้ เช่น
หินปูน, ทัลก์, แบไรต์, เบนโทไนต์, แคลเซียมคาร์บอเนต, โดโลไมต์, ถ่านหิน, ยิปซัม, ดินเหนียว, แก้ว, คาร์บอนแบล็ก, ตะกรัน, คลิงเกอร์ซีเมนต์ ฯลฯ
หากคุณต้องการเครื่องบดสำหรับบดหินหรือแร่ให้เป็นผง กรุณาติดต่อฉัน ขอบคุณค่ะ/ครับ
เครื่องบดทัลคัมที่มีความสามารถในการผลิตผงละเอียดขนาด 400 ตา และให้ผลผลิต 7 ตันต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการความต่อเนื่องในการผลิต และคุณภาพของผงที่ละเอียดและสม่ำเสมอ ทัลคัม หรือผงแป้งทัลค์ เป็นวัสดุที่ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เครื่องสำอาง พลาสติก สี ยาง และกระดาษ ซึ่งต้องการผงที่มีความละเอียดและขาวบริสุทธิ์
การบดทัลคัมให้ได้ความละเอียดระดับ 400 ตา (ประมาณ 38 ไมครอน) ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เครื่องบดที่มีเทคโนโลยีสูงและสามารถควบคุมขนาดอนุภาคได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเครื่องบดที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ดี มักจะเป็นเครื่องบดระบบลูกกลิ้งแนวตั้ง หรือเครื่องบดความเร็วกลางขั้นสูง ซึ่งมีระบบคัดแยกในตัว ช่วยให้ผงที่ได้มีความละเอียดตรงตามที่ต้องการโดยไม่ต้องบดซ้ำ
สำหรับผลผลิต 7 ตันต่อชั่วโมง ถือว่าเพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรมที่ต้องการปริมาณการใช้งานในระดับกลางถึงสูง ช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยของผงทัลคัมที่ผลิตได้ และสามารถส่งมอบสินค้าได้รวดเร็วในเชิงพาณิชย์ จุดสำคัญคือ ต้องมีระบบควบคุมการป้อนวัตถุดิบ และการระบายผงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันหรือการสะสมความร้อนในระหว่างการทำงาน
อย่างไรก็ตาม เครื่องบดที่สามารถผลิตได้ทั้งละเอียดและปริมาณมาก ย่อมต้องการการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปลี่ยนอะไหล่ที่มีการสึกหรอ และการตรวจสอบระบบหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้งานโดยผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการปรับแต่งความเร็วรอบ ระบบลม และแรงดันในกระบวนการบด เพื่อให้ได้ผงที่มีคุณภาพดีที่สุด
โดยสรุป เครื่องบดทัลคัมที่ความละเอียด 400 ตา และผลผลิต 7 ตันต่อชั่วโมง ถือว่า "ดีมาก" สำหรับภาคอุตสาหกรรม หากเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับประเภทวัตถุดิบ และมีการดูแลเครื่องอย่างเหมาะสม ก็สามารถสร้างความคุ้มค่าในการลงทุนได้ในระยะยาว
