เครื่องบดถ่านหิน ผลผลิต 20 ตันต่อชั่วโมง กับ 30 ตันต่อชั่วโมง แตกต่างกันอย่างไร?
2025-06-22 08:56:16
พวกเราเป็นบริษัท Liming Heavy Industry เราผลิตเครื่องบดหลายประเภท เช่น เครื่องบดเรย์มอนด์ เครื่องบดทราเปซอยด์ เครื่องบดแนวตั้ง เครื่องบดละเอียดพิเศษ เครื่องบดแบบลูกบอล เป็นต้น ซึ่งสามารถผลิตผงได้หลายขนาด เช่น 5 ไมครอน, 10 ไมครอน, 40 ไมครอน, 100 ไมครอน, 200 ไมครอน เป็นต้น
อุปกรณ์เครื่องบดของเราสามารถใช้ในการแปรรูปแร่ต่างๆ ได้ เช่น
หินปูน, ทัลก์, แบไรต์, เบนโทไนต์, แคลเซียมคาร์บอเนต, โดโลไมต์, ถ่านหิน, ยิปซัม, ดินเหนียว, แก้ว, คาร์บอนแบล็ก, ตะกรัน, คลิงเกอร์ซีเมนต์ ฯลฯ
หากคุณต้องการเครื่องบดสำหรับบดหินหรือแร่ให้เป็นผง กรุณาติดต่อฉัน ขอบคุณค่ะ/ครับ
ในอุตสาหกรรมพลังงาน ซีเมนต์ และการผลิตวัสดุก่อสร้าง ถ่านหินยังคงเป็นวัตถุดิบสำคัญ เครื่องบดถ่านหินจึงมีบทบาทสำคัญในการแปรรูปวัตถุดิบให้ได้ตามขนาดที่ต้องการเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการต่อไป หลายโรงงานที่กำลังวางแผนขยายกำลังการผลิตมักสงสัยว่าเครื่องบดถ่านหินที่ให้ผลผลิต 20 ตันต่อชั่วโมง กับ 30 ตันต่อชั่วโมง มีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบใดให้เหมาะสมกับงาน
1. กำลังการผลิตและปริมาณวัตถุดิบที่รองรับ
ความแตกต่างหลักคือปริมาณถ่านหินที่บดได้ในแต่ละชั่วโมง เครื่องที่ผลิตได้ 30 ตันต่อชั่วโมงสามารถรองรับวัตถุดิบได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่น 20 ตันต่อชั่วโมง เหมาะสำหรับโรงงานขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีความต้องการใช้ถ่านหินในปริมาณมากตลอดเวลา โดยไม่ต้องหยุดบ่อยเพื่อลำเลียงวัตถุดิบ
2. ขนาดของเครื่องและพลังงานที่ใช้
เครื่องบดที่มีผลผลิตสูงกว่าโดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ขึ้น มอเตอร์ที่ใช้จะมีกำลังมากกว่า ส่งผลให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นจึงต้องมีระบบไฟฟ้าที่รองรับได้ และควรประเมินค่าใช้จ่ายด้านพลังงานควบคู่ไปด้วย เครื่องแบบ 20 ตัน/ชั่วโมงอาจเหมาะกับโรงงานที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานหรือต้องการลดค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
3. ระบบส่งกำลังและความทนทาน
รุ่น 30 ตัน/ชั่วโมงมักมาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่แข็งแรงกว่า โครงสร้างภายในทนต่อแรงกระแทกและการสึกกร่อนจากถ่านหินที่มีความแข็งสูงได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานหนักต่อเนื่องในระยะยาว ในขณะที่รุ่น 20 ตัน/ชั่วโมง แม้จะมีโครงสร้างที่ทนทานเช่นกัน แต่เน้นความกะทัดรัดและดูแลง่ายมากกว่า
4. ต้นทุนการลงทุนและค่าบำรุงรักษา
เครื่องบดถ่านหินแบบ 30 ตันต่อชั่วโมงมักมีราคาสูงกว่าเครื่องขนาด 20 ตันต่อชั่วโมงประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและอุปกรณ์เสริม การบำรุงรักษาก็อาจใช้ต้นทุนสูงขึ้นเพราะชิ้นส่วนภายในใหญ่และสึกหรอเร็วขึ้นเมื่อใช้งานหนักอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นควรคำนึงถึงต้นทุนรวม (Total Cost of Ownership) ไม่ใช่แค่ราคาซื้อเบื้องต้นเท่านั้น
5. การเลือกใช้งานที่เหมาะสม
หากโรงงานของคุณมีกำลังการผลิตไม่สูงมากหรือผลิตเป็นรอบ ๆ เครื่องบด 20 ตันต่อชั่วโมงอาจเพียงพอและคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าต้องการการผลิตต่อเนื่อง ป้อนถ่านหินเข้าเตาเผาหรือหม้อไอน้ำตลอดทั้งวัน รุ่น 30 ตันต่อชั่วโมงจะตอบโจทย์ด้านประสิทธิภาพและเสถียรภาพได้มากกว่า
สรุป:
เครื่องบดถ่านหินขนาด 20 ตัน/ชม. และ 30 ตัน/ชม. แตกต่างกันทั้งด้านกำลังการผลิต โครงสร้าง เครื่องยนต์ และต้นทุนการลงทุน การเลือกใช้งานควรอิงจากความต้องการจริงของโรงงาน งบประมาณ และแผนการขยายกำลังการผลิตในอนาคต หากวางแผนการผลิตในระยะยาว การเลือกเครื่องที่รองรับผลผลิตสูงกว่าก็อาจช่วยประหยัดในระยะยาวได้มากกว่าที่คิด